01การยอมรับมีเลือดเป็นเดิมพัน
[Peach]
ร่างบางของเด็กหญิงสั่นเทาจากความหวาดกลัว เธอปรายตามองไปรอบกาย เสียงสายฝนตกลงกระทบพื้นถนนมันน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงวัยห้าขวบเศษที่อยู่ท่ามกลางโลกกว้าตัวคนเดียว
ผู้คนรอบกายต่างวิ่งหลบฝนกันชุลมุนโดนไม่หันมาสนเด็กหญิงที่นั่งตากฝนอยู่ข้างถังขยะใบใหญ่
เธอกลัวเหลือเกิน…
เธอหวั่นกับทุกอย่างรอบกาย เด็กน้อยปาดน้ำตาออกจากดวงตาใสก่อนจะสะอึกจนโตสั่น
พีชนั่งร้องไห้อยู่นานจนฝนเริ่มซา ตัวเธอเปียกปอน ปากก็เริ่มซีดเขียวเหมือนคนที่พร้อมจะหายไปตลอดเวลา หยาดน้ำตาก็แห้งเหือด เธอกอดตัวเองสั่นเทา
ในใจเฝ้าคิดถึงแต่บุคคลที่เป็นมารดาของตนเอง ป่านนี้แม่จะอยู่ไหนนะ ทำอะไรอยู่
พีชอยากอยากรู้
อยากรู้ว่าใครคือแม่ของเธอ…
พีชหยุดสายตามองเท้าคู่หนึ่งที่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอชะงักเล็กน้อยเพราะแปลกใจว่าเขาคือใคร
?
เด็กหญิงเงยหน้ามองชายหนุ่มอายุราวๆ สามสิบปีพลางขมวดคิ้วสงสัยว่าเขามายืนอยู่ตรงหน้าทำไม ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เธอก่อนจะนั่งลงแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้เธอ
‘ช่วงเวลาของความหวัง มันเริ่มต้นเมื่อใครสักคนหนิบยื่นให้’
“คุณท่านคะ กาแฟค่ะ" พีชหญิงสายวัยสิบห้าปีเดินถือถาดกาแฟมาเสิร์ฟคุณชายของบ้านนามว่าแซต
แซต เป็นนักธุระกิจหนุ่มวัยสี่สิบปี เขาเป็นคนสุขุม และอบอุ่น เขาแต่งงานมาแล้วนับสิบปีแต่ทว่าภรรยาเอกของเขานั้นมีลูกยาก
และแบบนี้จึงทำให้เขานั้นต้องหาใครสักคนที่สามารถมีลูกให้เขาได้จนเมื่อเก้าปีก่อนภรรยารองเขาก็สร้างข่าวดีให้กับตระกูลคือมีลูกสาว
ห้าปีก่อนหน้านี้คุณหญิงรองก็ได้ให้กำเนิดลูกชายคนที่สองของบ้าน ซึ่งแซตพอใจมากที่ได้ลูกชายเพราะหวังเพื่อจะให้สืบทอดธุระกิจของบ้านต่อจากเขา
“ไปเรียกเด็กๆ ลงมาทานข้าวหน่อย ป่านนี้แล้วยังไม่ลงมาอีก" คุณนายเจส คุณผู้หญิงของบ้านภรรยารองของคุณท่านเอ่ย
“ค่ะคุณนาย" พีชก้มหัวให้ก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินไปเรียกเด็กๆ ตามคำสั่ง
“อ้อจริง ฉันฝากเธอเอาซุปเห็ดไปให้คุณหญิงเอกหน่อย เห็นบ่นว่าอยากกิน" คุณหญิงรองกวักมือเรียกพีชให้เดินมาเอาซุปเห็ดไปให้คุณหญิงเอก
คุณหญิงเอก
หรือแม่ใหญ่นั้น เป็นคนที่เลี้ยงพีชมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
เธอเป็นคนใจดีและสวยมากๆ พีชรักท่านเปรียบดั่งมารดาที่ให้กำเนิด
“พี่พีช พี่เอาเข็มขัดแซนดี้ไว้ไหน ทำไมหาไม่เจอ “ เสียงแซนดี้ลูกสาวคนโตของบ้านเอ่ยอย่างหัวเสีย
“ในตู้ไม่มีหรอ?”
“พีชฮะ ชายไม่อยากใส่ชุดนักเรียนฮะ ชายถอดนะฮะ" เด็กน้อยวัยห้าขวบพูดพลางถอดชุดนักเรียนตัวเองออกก่อนจะโยนมันทิ้งไปทั่วห้อง
“โอ้ย ทำไมไม่เจอวะ นี่แกตั้งใจซ่อนมันแน่ๆ “ แซนดี้โวยวายปิดประตูตู้เสื้อผ้าเสียงดัง
“ไม่ได้นะครับชาย ชายต้องใส่ชุดนักเรียนเพราะชายต้องไปโรงเรียนนะครับ ไม่งอแงนะ" พีชจับชายให้อยู่นิ่งๆ แล้วจัดการสวมชุดนักเรียนตัวเดิมให้
ชายดิ้นงอแงไม่ยอมใส่พลางแหกปากร้องไห้ลั่นบ้านจนน่ารำคาญ
“ไม่เอา ชายไม่ใส่ ชายไม่ไปโรงเรียน ชายไม่ไป!!!
ฮือ แม่!!!!!”
“แม่ พี่พีชเอาเข็มขัดแซนดี้ไปซ่อนอีกแล้ว แล้วแบบนี้แซนดี้จะทำยังไง แซนไม่ไปโรงเรียนแล้วนะ!!”
แซนดี้เดินฝึดฝัดลงไปชั้นล่างเพื่อไปฟ้องแม่ของตนเอง
โดยใช้เหตุผลต่างๆ นานาเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องไปโรงเรียน
“เห้อ ไม่ได้นะครับชาย ชายต้องไปโรงเรียน" พีชเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนิ่ม ทำไมขี้งอแงกันจังนะ
“ชายไม่ไป แง้!!!!!”
“ชาย ไม่ได้"
ในทุกๆ
วันที่ต้องไปโรงเรียนแซนดี้และชายมักเป็นแบบนี้ตลอด ไม่รู้ทำไมถึงไม่ชอบไปโรงเรียนกัน
พีชต้องคอยเอาใจทั้งสองคนจนเหนื่อย บางที่แซนดี้จะโวยวายเอาความเท็จไปบอกคุณหญิงรอง
บางทีก็ลงไม้ลงมือกับพีชบ้าง ชายเล็กงอแงแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วพีชชินกับน้องดี
เพราะพีชก็เลี้ยงทั้งสองมาเหมือนน้องแท้ๆ แต่มันก็แค่ความรู้สึกในใจของพีชคนเดียว
“พีช ตามฉันมานี่ ป้านวลไปแต่งตัวให้เด็กๆ แทนมันที”
คุณหญิงรองยืนกอดอกมองแล้วออกคำสั่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ตาคมปลายมองพีชนิ่งๆ ไม่ได้สื่ออารมณ์ใดๆ จนในใจเริ่มกลัว
และลักษณ์ท่าทางของคุณหญิงรองที่แสดงออกมานั้น พีชทราบดี
พีชรู้เลยว่าต้องเจอกับอะไร…
เธอก้าวขาเดินตามหลังผู้เป็นเจ้านายอย่างไม่อิดออด ระยะทางที่เดินมันชั่งยาวนาน และไกลเหลือเกินถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ไกลนัก
ในใจหนักอึ้งขึ้นมาจนจุกอกเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะโดนต่อจากนี้
‘การยอมรับอาจจะเป็นหนทางของความเชื่อใจ'
“ค…คุณนาย พีชขอโทษ พีชไม่ได้ตั้งใจ ฮึก" มือเรียวยกขึ้นไหว้อีกคน ครั้งแล้วครั้งเล่า
ถึงจะขอร้องจนต้องยอมลดศักดิ์ศรีที่มีกราบไหว้แทบเท้าคนตรงหน้าก็ยังคงโหดร้ายเช่นเดิม ฝ่ามือจิกลงบนผมสีน้ำตาลเข้มดึงมันจนคนตัวเล็กเอียงตามแรง มืออีกข้างก็ฟาดลงบนแก้มบางไม่ยั้งมือ
ใบหน้าบางก้หันไปตามแรงตบ รอยช้ำเริ่มชัดขึ้น
พีชหันหน้าขึ้นมามองผู้เป็นเจ้าชีวิตก่อนจะหลบตา
ลิ้นก็แตะกระพุ้งแก้มเพื่อระบายความเจ็บปวด มือสองข้างก็ยังคงพนมมือไว้แบบนั้น
การทำร้ายร่างกาย…พีชโดนมันจนชินเสียแล้วแต่มันก็อดที่ใจจะน้อยใจไม่ได้
คุณหญิงมักจะทำแบบนี้ตลอด ไม่สนความรู้สึก หรือความจริงใดๆ เลยด้วยซ้ำ
“จำไว้นะ ต่อไปนี้ห้ามขัดใจลูกฉันเด็ดขาด อีโง่!”
คุณนายรองชี้หน้าด่าเหมือนเห็นพีชเป็นแค่สัตว์
แล้วใช้เท้าถีบเข้าไหล่บางจนร่างของพีชไถลไปชนกับเสากับด้านหลังจนจุก เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากศีรษะด้านหลังบ่งบอกได้ดีว่าเมื่อครู่หัวของเธอกระแทกกับเสา
เมื่อเธอทารุณจนสะใจแล้วก็เดินออกไปโดยไม่หันมาสนใจเลยสักนิดว่าเธอจะเป็นยังไง
ดวงตาหวานได้แต่มองตามแผ่นหลังนั้นอย่างอิดโรย
ในตาพร่ามัวมองภาพอะไรแทบไม่ชัด หยาดน้ำสีใสไหลออกมาจากนัยน์ตาอย่างไม่ขาดสาย
กี่ครั้งแล้ว กี่พันครั้งที่พีชโดนแบบนี้ และก็โกรธตัวเองที่ไม่กล้าที่จะหนีไปสักที
ตั้งแต่วันนั้น วันที่คุณชายเจอพีช พีชดีใจมากที่อย่างน้อยเธอจะไม่ใช่คนไร้บ้าน หรือเด็กกำพร้าอีกแล้ว มันเหมือนความหวังของการเริ่มต้นใหม่
พีชวาดฝันว่าเธอจะมีพ่อแม่ และน้องที่น่ารัก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แต่มันกลับไม่ใช่!
พีชโดนตราหน้าว่าตัวซวย เพราะพีชเอง พีชทำให้คุณหญิงเอกต้องนอนติดเตียงแบบนี้ ถ้าวันนั้นพีชไม่หนีออกมาจากบ้านเพียงเพราะคุณชายมีผู้หญิงอีกคนคนที่พีชรักมากที่สุดคงไม่ต้องมาเจอร้องเลวร้ายแบบนี้
เธอได้แต่ร่ำไห้ สรรหาคำพูดมาด่าและโทษตัวเองตลอดแปดปีที่ผ่านมา ไม่มีครั้งใดเลยที่พีชจะไม่โดนคุณหญิงรองตบเพียงเพราะเหตุผลงี่เง้า
และความสะใจส่วนตัวของเธอเอง
คุณหนูทั้งสองก็เกลียดพีชอย่างกับอะไรดี แต่พีชยังทนเพราะคุณท่านเองก็มีบุญคุณล้นหัวพีช และก็ต้องดูแลคุณหญิงเอกอีก
‘การโดนกดขี่จากบุญคุณ มันก็เหมือนการชดใช้’
“พีช มานี่สิ”
คุณนายเอกยกยิ้มให้คนตัวเล็ก นัยน์ตาสำดำสนิทของเธอฉายแววเอ็นดู
“ค่ะคุณหญิง" พีชนั่งลงบนเตียงก่อนจะจับมือเธอมากุมเพื่อให้เธอรู้ว่าพีชอยู่ตรงนี้และรับฟัง
“เจ็บไหม?”
เธอยกมืออีกข้างขึ้นมาจับใบหน้าเล็กอย่างพินิจ รอยฟกช้ำมุมปากกับรอยช้ำเขียวข้างแก้ม ตอกย้ำชัดเจนว่าพีชเจ็บปวดและโหยหาความอบอุ่นมากเพียงใด
“พีชไม่เจ็บหรอกค่ะ ชินแล้ว" พีชมองหน้าเธออย่างขอบคุณ คุณหญิงเอกเป็นคนเดียวที่ห่วงเธอมากที่สุดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงตอนนี้
“ถ้าเจ็บก็บอกเจ็บสิ ไม่ต้องพยายามเข้มแข็งกับชั้นหรอก”
“…”
“ฉันเลี้ยงเธอมา ทำไมจะดูไม่ออก" พีชก้มหน้าลงพลางพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกเหงาในหัวใจเอาไว้
การไม่มีใครมันเหงาจริงๆ นะ
“ฉันรู้ว่าเธอเหนื่อยเด็กน้อย ฉันเองก็เหนื่อยเต็มทนแล้วเหมือนกัน"
“คุณหญิง" พีชมองหน้าคุณหญิงอึ้งๆ ก่อนหยาดน้ำตาที่กลั้นเอาไว้จะค่อยๆ ไหลลงอย่าห้ามไม่ได้ เธอดึงพีชเข้าไปกอด
“ถ้าไม่ไหวก็หนีไปซะ ไม่ต้องห่วงฉันเพราะยังไงฉันก็จะตายในอีกไม่นาน" พีชกอดคุณหญิงแน่น เธอเองก็รู้ว่าทำไมคุณหญิงต้องพูดแบบนี้ ทั้งๆ ที่เธอเองมีอำนาจมากที่สุด และเป็นคนดูแลสมบัติทั้งหมดของบ้าน ก็เพราะคำว่าสมบัติไงล่ะ
“ไม่ พีชจะไม่หนี พีชจะอยู่ดูแลจนกว่าคุณนายจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง"
“เธอสู้เขาไม่ได้หรอกสาวน้อย หนีไปเถอะ"
‘ความอ่อนโยนไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ’
“พีชเธอช่วยไปเก็บเศษแก้วที่ห้องทำงานฉันทีนะ”
คุณหญิงรองหันมาบอกพีชก่อนจะยื่นมือมารับกระเป๋าสุดหรูหราของเธอแล้วเดินขึ้นรถไป
พีชเม้มปากแล้วหมุนตัวกลับเตรียมตัวจะไปทำความสะอาดห้องคุณหญิงตามที่ได้รับคำสั่ง
แต่ข้อมือบางก็ถูกใครบางคนจับมันไว้
“คุณท่าน” พีชเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าคนที่รั้งข้อมือเธอไว้
“จะไปไหน”
“ทำความสะอาดห้องคุณหญิงรองค่ะ”
พีชแกะมือของเขาออกก่อนจะถอยออกห่างพอสมควร
ให้ละไว้ในฐานะที่เหมาะสมของฐานะจะดีกว่า
“ไปพร้อมกัน ฉันจะไปเอกสารที่ห้องคุณหญิงพอดี”
คุณท่านเดินเข้าไปใกล้ร่างบางพลางคว้าไหล่เข้ามาโอบแล้วบังคับให้เดิน
'คำตอบของทั้งหมดเราเลือกมันเอง'
ประตูบานใหญ่ของห้องทำงานถูกเปิดออกร่างบางถูกกระชากเข้ามาอย่างรุนแรง
แซตพยายามดึงพีชเข้ามากอดแต่พีชก็ขัดขืน แซตเห็นท่าไม่ดีเลยชกท้องของเธอจนร่างบางทรุดลลงกับพื้น
“รุนแรงจังเลยนะไอ้คุณชาย ทะนุถนอมเธอหน่อยสิ”
เสียงทุ่มต่ำของใครบางคนเอ่ยออกมาจากมุมอับของห้องก่อนจะเดินออกมาเผยให้เห็นใบหน้าเรียวรี
และจมูกเป็นสันโด่ง พีชคุ้นหน้าเขาแต่ไม่นึกยังไงก้นึกไม่ออกว่าเขาคนนี้คือใคร
เขายกยิ้มขึ้นมุมและหรี่ตามองแซต “นี่หรอวะคุณท่านของคุณนาย สันดานทุเรสใช้ได้เลยว่ะ”
“แกเป็นใคร” คุณชายเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่งไม่ได้แสดงความหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย
“เป็นใครมันไม่สำคัญหรอก แต่กูมาทำอะไรน่าจะสำคัญกว่า”
เขาหันหน้าไปยังมุมตู้หนังสือปรากฏร่างของแซนดี้และชายที่กำลังหลับไหลอยู่ แซตในตากระตุกวูบการกระแสดงออกเริ่มแสดงถึงอาการรนราน
“แกต้องการอะไร!” แซตถามพลางมองลูกๆ ของตนเองไม่คาดสายตา
“ชีวิตแก” เขาตอบสั้นๆ
เพียงแค่นี้แต่มันกลับทำให้ใจของพีชสั่นไหว
ชายหนุ่มปริศนาคนนั้นชักปืนขึ้นมาเล็งไปที่ร่างของเด็กน้อยที่นอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องอยู่
“อย่านะ แกจะทำอะไร” แซตกระโดดไปปลายกระบอกปืนแทน
“หึ” เขาไม่คิดแม้แต่จะสนใจคนที่เอาตัวเองมาบังกระสุนแทนลูก
เขาผลักร่างของแซตกระแทกกับชั้นหน้าสือก่อนจะลั่นไกปืนใส่หัวของชาย…
“ไม่!!!” แซตกระโกนเสียงหลงก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ฆาตกรหันมามองพีชพลางสับเท้าก้าวเข้ามาหาร่างบางที่ยืนสั่นเทาอยู่
พีชสะดุ้งโหยงเมื่อชายคนนั้นโอบเธอไว้ในอ้อมกอดแล้วยัดปืนใส่ในมือบางเอาไว้และจับมือให้เล็งมันมาทางแซต
พีชพยายามดิ้นแต่แรงของเธอนั้นมีน้อยกว่าอีกคน
“ฉันให้สิทธิ์เธอ ฆ่ามันสิ” กระซิบข้างหูบางพลางเลียมันเบาๆ
พีชหันไปมอง เลิกคิ้วสงสัย
“หมายความว่ายังไง”
“มันทำอะไรกับเธอ เธอรู้ดี
ล้างแค้นมันให้ตัวเองสิ ถ้าเธอฆ่ามันซะอีคุณหญิงรองก็จะเจ็บปวดปางตาย ลูกสาวมันก็จะเป็นลุกไม่มีพ่อ
ลองเลือกสิว่าจะฆ่าเพื่ออิสระหรือจะยอมก้มหัวให้คนแบบนี้ต่อไป” ว่าพลางใช้จมุกคลอเคลียกับลำคอขาว
“นึกถึงสิ่งที่พวกมันทำกับเธอสิ
เอาความแค้นความเจ็บปวดมาสะสางซะ ฉันรู้ดีว่าเธอเจ็บปวดมาก ทุกข์ทรมานมาตลอดเพราะฉะนั้นทางเดียวที่เธอจะมีความสุขได้
คือ…”
“ฆ่ามันซะ!” พีชกัดฟันกรอดเมื่อพูดประโยคนั้นออกมา
ดวงตาที่เคยหวานอ่อนโยนถูกแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่แข็งกร้าวปากเรียวยกยิ้มขึ้นอย่างน่ากลัว
มือบางสะบัดหน้าของไอ้ฆาตกรคนนั้นออกจนตัวเองเป็นอิสระ
“หึ ฆ่ามันสิสาวน้อย”
“หุบปาก”
พีชหันไปสะบถใส่เขาอย่างหัวเสียก่อนจะเล้งปลายกระบอกปืนไปยังแซต นิ้วเรียวลั่นไกปืนใส่กลางอกอีกคนอย่างไม่ลังเล
แต่ในขณะที่กระสุนกำลังจะทะลุอกอีกคน
ความรู้สึกผิด ความรู้ขอบคุณ และใบหน้าของคุณหญิงเอกก็ผุดขึ้นมาในหัว
“ไม่!!” พีชตะโกนมันดังลั่นแต่มันก็ไม่ทันแล้วกระสุนนัดนั้นที่พีชได้ลั่นมันออกมาเองกับมือ
กำลังทะลุผ่านอกของคุณที่ขึ้นชื่อว่ามีบุญคุณกับพีชมาก
พีชไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังเสียใจหรือกำลังสบายใจ…
10.04.20
@Macgust
@sailom
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น